อยู่ในช่วงสมัยที่ความนิยมในการดื่มไวน์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ไวน์ไม่เพียงแค่เครื่องดื่มอัลคอฮอล์ที่มีลักษณะตามปกติ แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ไวน์ยังถือเป็นสัญญาณที่แสดงถึงการร่วมงานทางธุรกิจ การสังสรรค์อย่างสุภาพและการฉลองสำคัญในชีวิต ไม่น่าแปลกใจหากจากการจัดเลี้ยงงานประจำปีนั้น การเสริมสร้างความเป็นมืออดทนในการดื่มไวน์ก็เริ่มนำทาง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและถ้าถากว่าเป็นเทคนิคในการดื่มไวน์ที่สำคัญที่ว่า "กินไวน์เป็นเทคนิคการดิบโด้ง" เพื่อให้ไวน์ที่ดื่มเข้ากับรสชาติและให้ความเงียบชิดกับกิจกรรมที่แต่งกาย เช่น น้อมเสน่ง หรือจิตรกรรม เพื่อให้เบอร์ลี่ไวน์ไม่ต้องตกเป็นกระเป๋าเครื่องมือ Noise Wine Bag คู่ควบคู่ไปกับการดื่มไวน์ในกิจกรรมนี้ เพื่อให้ไวน์ที่ดื่มบรรจบและคงสภาพไว้ได้อย่างแน่นอน

ประวัติของไวน์

ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5,000 ปีที่แล้วในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแรกของพืชองุ่น ท่ามกลางภูเขาและพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เจ้าของที่ดินในพื้นที่นั้นได้ค้นพบว่าพืชองุ่นสามารถทนทานอากาศและเชื้อราในบริเวณที่อับชื้นได้ดี จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มทำการปลูกพืชองุ่นเป็นพืชเศรษฐกิจ และใช้เหล้าที่ได้จากการหมักองุ่นเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวัน

ในช่วงสมัยโบราณ ไวน์ถูกบรรจุในเรือพร้อมกับวัตถุดิบอื่น และนำสู่พื้นที่ทั้งในและนอกประเทศ โดยสามารถใช้ในการเปิดรังสีปรินซิเปสได้ ทำให้ไวน์มีความยาวนานยิ่งขึ้นและทนทานต่อการเน่าเปื่อยอย่างแท้จริง

จนกระทั่งในยุคสมัยโบราณ ไวน์กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จและความมั่งคั่ง โดยมีการสร้างสรรค์และพัฒนากระบวนการผลิตไวน์อย่างมากมาย จากการใช้ยาสูบในกระบวนการฟาร์เมนเตชันในศตวรรษที่ 17 รวมไปถึงการพัฒนาเทคนิคการประกอบไวน์อย่างล้ำหน้าในสมัยสมเด็จพระราชินีอาวีรกิจในศตวรรษที่ 19

ประเภทของไวน์

โลกของไวน์มีหลายประเภทที่น่าสนใจ ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป นี่คือประเภทของไวน์ที่เราควรรู้จัก!

1. 
   

   ไวน์แดง: ไวน์แดงได้มาจากการหมักทุเรียนแดง โดยเนื้อเยอะและมีน้ำตาลมาก ทำให้ไวน์แดงมีรสชาติหวานและนุ่มนวล เป็นไวน์ที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก

   
   


2. 
   

   ไวน์ขาว: ในขณะที่ไวน์แดงมาจากทุเรียนแดง ไวน์ขาวมาจากทุเรียนขาว ที่มีเนื้อน้อยและน้ำตาลน้อย ดังนั้นไวน์ขาวมีรสชาติที่เป็นจังหวะ โดยมักมีลักษณะรสชาติที่เป็นกรดปนเปรี้ยว

   
   


3. 
   

   ไวน์กาโบเวอร์: ไวน์กาโบเวอร์เป็นไวน์ที่ผสมผสานระหว่างไวน์แดงและไวน์ขาวรวมกัน ทำให้ได้รสชาติที่ซับซ้อน มีรสเปรี้ยวที่สมดุลกับรสหวาน และเป็นไวน์ที่เหมาะสำหรับการประลองประสบการณ์ใหม่ๆ

   
   

ไวน์มีความหลากหลายที่น่าตื่นเต้น และแต่ละประเภทมีลักษณะที่เฉพาะตัว ถ้าคุณสนใจเรื่องไวน์ คุณจะได้อิสริยาภรณ์ที่น่าตื่นเต้นไปกับความหลากหลายของไวน์ที่มีอยู่ในโลก!

เทคนิคการดิบโด้งของไวน์

เทคนิคการดิบโด้งของไวน์เป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการเพิ่มความอ่อนโยนให้กับรสชาติและกลิ่นของไวน์ วิธีการดิบโด้งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของไวน์และความต้องการของผู้บริโภค ดังนั้นเรามาดูกันว่าเทคนิคการดิบโด้งของไวน์นั้นมีอะไรบ้าง!

หนึ่งในวิธีการดิบโด้งที่นิยมกันคือการเติมอากาศในไวน์ วิธีนี้สามารถทำได้โดยการเปิดขวดไวน์แล้วนำไวน์ไปเจาะบางส่วนออกจากภาชนะ เพื่อให้ไวน์ได้รับอากาศเป็นประโยชน์ การเติมอากาศในไวน์จะช่วยให้ไวน์เริ่มเปลี่ยนแปลงในระดับที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค เช่น รสชาติอ่อนโยนขึ้นหรือกลิ่นหอมของผลไม้ที่เด่นชัดขึ้น

อีกหนึ่งวิธีการดิบโด้งที่นิยมคือการเทไวน์เข้ากลุ่มกับอาหารเพื่อเสริมรสชาติและกลิ่นของทั้งไวน์และอาหาร ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไวน์และอาหารจะช่วยเพิ่มความหลากหลายและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับรสชาติและกลิ่นของไวน์ ในการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับไวน์ เราควรพิจารณาความเข้มข้นของรสชาติและกลิ่นของไวน์ เพื่อให้ได้ความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ที่สุด

สุดท้ายวิธีการดิบโด้งอีกอย่างที่นิยมคือการหลั่งไวน์ในแก้วที่ใส่น้ำแข็ง การหลั่งไวน์ในแก้วที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งจะช่วยปรับความเย็นของไวน์ลง ทำให้ไวน์มีรสชาติที่สดชื่นและสะอาดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากเราต้องการเพิ่มความเป็นธรรมชาติและฟินในการดื่มไวน์ เราสามารถใส่ตัวตกแต่งและส่วนผสมอื่นๆ เข้ากับไวน์ได้ตามความชอบของเราเอง

นี่เป็นเทคนิคการดิบโด้งที่นิยมของไวน์ที่คุณควรลองใช้เพื่อเพิ่มความอร่อยและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับไวน์ที่คุณดื่มครับ!